หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

ประชาธิปไตยที่ถูกควบคุม

ประชาธิปไตยที่ถูกควบคุม

โดย นฤตย์ เสกธีระ max@matichon.co.th


(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 18 เมษายน 2554)

สมัยเด็กเคยเลือกหัวหน้าห้องกันไหมครับ ?

การเลือกหัวหน้าห้อง หรือ หัวหน้าชั้น เป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักระบอบประชาธิปไตย

วิธีง่ายๆ ที่ทำคือ ให้นักเรียนในห้องเสนอชื่อเพื่อนที่ตัวเองสนับสนุน จากนั้นก็ให้นักเรียนในห้องลงคะแนนเลือกใครเป็นหัวหน้า

คนที่ได้คะแนนมากที่สุดได้เป็นหัวหน้า ส่วนคนที่ได้คะแนนรองลงมา รับตำแหน่งรองหัวหน้าห้องไป

นักเรียนที่เป็นหัวหน้ากับรองหัวหน้าก็ทำงานช่วยเหลือกันดี

นักเรียนกลุ่มที่เสนอชื่อเพื่อนทั้งสองชื่อก็สมัครสมานสามัคคีกันดี

วิธีการแบบนี้กลายเป็นประชาธิปไตยในห้องเรียน

ทีนี้เราก็เอาวิธีการในห้องเรียนมาใช้กับประเทศไทยบ้าง

เปลี่ยนจากเลือกหัวหน้าห้องมาเป็นเลือกนายกรัฐมนตรี

เราพบว่า ระบอบประชาธิปไตยในห้องกับระบอบประชาธิปไตยของประเทศแตกต่างกัน

แม้ขั้นตอนแรกจะเหมือนกันคือ ให้คนไทยเสนอชื่อคนไทยให้คนไทยเลือก

เหมือนกับให้นักเรียนเสนอชื่อนักเรียนให้นักเรียนเลือก

แต่ขั้นตอนหลังจากนั้นเริ่มห่างไกลจากประชาธิปไตยในห้องเรียนไปเรื่อยๆ

เหตุที่ห่างไกลไปเรื่อยๆ เพราะ "ครู" แทนที่จะทำหน้าที่ดูแลกระบวนการทุกอย่างให้เป็นประชาธิปไตย กลับพยายามเข้ามาแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตย

เหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจาก "ครู" เริ่มไม่ไว้วางใจ "นักเรียน" เสียแล้ว

บทบาทของ "ครู" เปลี่ยนแปลงกลายเป็น "ผู้คุม"

วันนี้ กลายเป็นว่า ทุกๆ การตัดสินใจของคนไทยจะต้องมี "ผู้คุม" คอยถือไม้เรียวกำกับ

การสรรหาตัวบุคคลที่จะแข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องผ่านความเห็นชอบของ "ผู้คุม" เสียก่อน

พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหาอะไร เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น "ผู้คุม" ยอมรับในฝีไม้ลายมือ

พรรรคขนาดกลางและขนาดย่อมอื่นๆ จะทำอะไรก็ต้องอยู่ในสายตาของ "ผู้คุม" คนเดียวกัน

หลายพรรคเช่น ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา เพื่อแผ่นดิน รวมชาติพัฒนา ฯลฯ แม้บางครั้งจะไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์

แต่ก็เกรงใจ "ผู้คุม" ไม่กล้าหือ

ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นซวยกว่า เพราะมี "ผู้คุม" มากกว่า 1 คน

คนแรกอยู่ต่างประเทศ คอยกำหนดทุกอย่าง ทั้งนโยบายพรรค ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ลำดับของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไปจนถึงกฎกติกา เช่น ต้องเขียนใบลาออกทิ้งเอาไว้ล่วงหน้า เป็นต้น

อีกคนหนึ่งอยู่ในประเทศ เป็นคนๆ เดียวกับที่คุมพรรคการเมืองอื่นๆ อยู่

"ผู้คุม" คนแรก กับ "ผู้คุม" คนหลังนี้ไม่ถูกกัน ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยลำบาก เพราะไม่รู้จะเลือกใครที่ถูกใจ "ผู้คุม" ทั้งสองคน

ก่อนหน้านี้ก็เคยตามใจ "ผู้คุม" จากต่างประเทศ ผลักดันคุณสมัคร สุนทรเวช ผลักดันคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์

แต่ทั้ง "สมัคร" และ "สมชาย" ก็พลัดตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

แถมพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นที่อยู่ตอนนั้นก็พลอยถูกยุบไปอีก

เลือกตั้งคราวนี้ก็กะว่า ถ้าพบปะใครที่สมควรผลักดันเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องถาม "ผู้คุม" ในประเทศด้วยว่าเห็นชอบหรือไม่

คะเนดูว่า ถ้า "ผู้คุม" "อนุมัติ" ก็จะส่งคนนั้นเข้าประกวด

แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครที่ "ผู้คุม" ทั้งสองคนเห็นพ้องว่าสามารถเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับประเทศไทยได้

ทำไปทำมา สู้กันไปสู้กันมา ประชาชนเจ็บดับกันมามากมาย

แต่สุดท้ายประชาธิปไตยที่ควรจะอยู่ที่ประชาชน กลับตกอยู่ในมือของ "ผู้คุม"

กลายเป็นประชาธิปไตยที่ถูกควบคุมไปฉิบ


ref : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1303128908&grpid=&catid=02&subcatid=0207 19/04/2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น